Page 19 - Ricoh Family
P. 19
RICOH
FEATuRE
ทาง Salesforce คาดหวังที่จะเพิ่มการน�าเทคโนโลยี Wearable ไปใช้
อย่างแพร่หลายมากขึ้น เนื่องจากอุปกรณ์ Wearable ท�าให้พนักงานขาย
สามารถเชื่อมต่อกับโลกดิจิทัลได้อย่างใกล้ชิดขณะที่ยังท�างานกับลูกค้า
บนโลกภายนอกได้อยู่ ตัวอย่างเช่น แทนที่การประชุมจะท�าให้ไม่สามารถ
ตรวจเช็คโทรศัพท์มือถือหรือเปิดแล็ปท็อปไปได้พร้อมกัน ผู้ใช้อุปกรณ์
Wearable ก็จะสามารถมองเห็นการอัพเดทต่างๆ ได้แค่เหลือบมอง
สมาร์ทวอชพร้อมๆ กับการให้ความส�าคัญกับงานประชุมตรงหน้า ซึ่งเทรนด์นี้
เริ่มถูกน�าไปใช้ในหลายองค์กรแล้ว
การให้บริการลูกค้าแบบ 2.0
แม้เราจะอยู่ในยุคที่เห็นการใช้งานสมาร์ทโฟนอยู่ทุกที่ แต่เมื่อมีเทคโนโลยี
คอนซูมเมอร์ใหม่คืบคลานเข้ามายังสถานปฏิบัติงาน ก็มักท�าให้ภาพของ
กระบวนการทางธุรกิจเปลี่ยนโฉมหรือถูกปรับแต่งใหม่อยู่เสมอ ต่อจากนี้
บริษัทต่างๆ จะสามารถพัฒนาแอปอย่างจ�าเพาะที่เชื่อมต่อกับกระบวนการ
ทางธุรกิจและเครื่องมือใหม่หรือที่เพิ่งได้รับการปรับปรุงเพื่อน�ามาใช้กับ
อุปกรณ์ Wearable ได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการจากระยะไกลที่ให้บริการ
ซ่อมแผงโซลาร์เซลล์สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลบนแดชบอร์ดแบบ
เรียลไทม์, ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับอุปกรณ์, และรับทราบ
ความคิดเห็นแบบสดๆ บนอุปกรณ์ที่ไมได้อยู่บนมือ เช่น เห็นจากแว่นตา
อัจฉริยะ เป็นต้น เรียกได้ว่า พนักงานที่ก�าลังให้บริการอยู่ที่สถานที่ของลูกค้า
สามารถเข้าถึงเครื่องมือและข้อมูลที่ต้องการได้ทุกเวลา เพื่อให้ลูกค้าได้รับ
ประสบการณ์การรับบริการที่ดีที่สุด แก่ลูกค้าปลายทาง ส่งผลให้เพิ่มประสิทธิภาพในการบริการ และยกระดับ
ความพึงพอใจของลูกค้าได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
การตลาดที่ปรับแต่งได้ ทาง Salesforce ได้ใช้ประโยชน์จากจุดนี้ด้วยเช่นกัน โดยไม่นานมานี้
อย่างที่เห็นได้จากแอปที่ใช้บริการระบุต�าแหน่งที่ตั้ง และการแจ้งเตือน ได้เปิดตัว Wear Developer Pack ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาส�าหรับให้
แบบ Push ในการส่งมอบคูปองให้แก่ลูกค้าในเวลาที่ลูกค้าเดินเข้ามาในพื้นที่ ธุรกิจต่างๆ ใช้ประโยชน์จากข้อมูลของลูกค้าผ่านเทคโนโลยี Wearable เช่น
ของร้านได้นั้น เทคโนโลยี Wearable ก็ถือว่ามีศักยภาพในการรวบรวมและ Fitbit และ Google Glass โดยใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ด้านการตลาดที่ท�างาน
ส่งต่อข้อมูลจ�านวนมากที่น�าไปใช้ประโยชน์ได้ไปยังบริษัทที่เกี่ยวข้องแบบ ผ่านคลาวด์อย่าง ExactTarget ของ Salesforce เอง ท�าให้สามารถน�า
เรียลไทม์ นอกจากนี้ อุปกรณ์ Wearable ที่เชื่อมต่ออยู่ยังท�าให้ธุรกิจได้ เทคโนโลยีนี้มาช่วยรวบรวมข้อมูลกิจกรรมของลูกค้า และส่งมอบแคมเปญ
รูปแบบการเจาะจงกลุ่มลูกค้าแบบใหม่ เพื่อใช้ท�าตลาดและจ�าหน่ายผลิตภัณฑ์ ทางการตลาดทั้งผ่านโซเชียลและอุปกรณ์พกพา ซึ่งการใช้ประโยชน์จากข้อมูล
ที่รวบรวมจากลูกค้าเพื่อเป้าหมายทางธุรกิจได้นั้น ถือเป็นคุณประโยชน์ส�าคัญ
ของระบบบิ๊กดาต้าด้วย
สรุปคือ เทรนด์การใช้เทคโนโลยี Wearable เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้
ได้เข้ามามีบทบาทส�าคัญต่อการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการท�าธุรกิจขององค์กร
แม้ปัจจุบันยังถือว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้นก็ตาม แต่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ต่างให้ความ
สนใจที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ส�าหรับอุปกรณ์ Wearable มากขึ้น และพร้อมรับ
เอาโลกของอุปกรณ์พกพาและระบบดิจิทัลมาผสานกับสิ่งที่มีอยู่มากกว่าเดิม
เป็นระยะเวลาอันยาวนานที่ RICOH ได้คอยช่วยเหลือบริษัททุกขนาดให้
ไม่เพียงแค่มองเห็นการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังท�าให้ทุกคน
ตระหนักถึงความส�าคัญด้วย ในยุคเริ่มแรกนั้นอาจจะหมายถึงการสร้างเครื่อง
ส่งแฟกซ์ในส�านักงานเครื่องแรกของโลก แต่ยุคนี้คือการใช้ประโยชน์จาก
โมบิลิตี้ที่สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ต้องการได้จากทุกที่
ทุกเวลา เพื่อช่วยผลักดันให้เกิดผลส�าเร็จตามต้องการ ส�าหรับอนาคตนั้น
RICOH ก็ได้เริ่มมองวิสัยทัศน์และเร่งท�าให้เป็นรูปร่างขึ้นจากสถาบันวิจัยของ
เราแล้ว ดังนั้น เมื่อถึงเวลาที่สถานที่ปฏิบัติงานจะต้องเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
RICOH ก็จะพร้อมให้ความช่วยเหลือเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่าง
ราบรื่นและเกิดประโยชน์สูงสุดได้
ที่มา : https://blog.ricoh.ca/EN/post/2018/12/13/will-wearable-technol-
ogy-change-the-way-we-work.aspx
www.ricoh.co.th
19