Page 27 - Ricoh Family
P. 27
RICOH
InSpIRatIOn
2. ร่วมมือกับองค์กรหรือบุคคลอื่นที่เจาะกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน
เพื่อที่จะได้แบ่งปันช่องทางการเข้าถึงลูกค้าเดียวกันได้พร้อมกัน โดยควร
เริ่มจากการหาสถานที่ ต�าแหน่ง หรือแพลตฟอร์มที่กลุ่มเป้าหมายของ
คุณรวมตัวกัน ทั้งบนโลกออนไลน์และออฟไลน์ภายนอก รวมทั้งพิจารณา
เลือกวิธีในการน�าเสนอและเปิดตัวแบรนด์ ธุรกิจในช่วงเริ่มต้นนั้นถือเป็นช่วง
ที่ควรหาความร่วมมือหรือพาร์ทเนอร์ด้วย ดังนั้นจึงจ�าเป็นที่ควรค้นหาความ
ร่วมมือที่ช่วยส่งเสริมทางธุรกิจกันได้
3. อยู่กับปัจจุบัน อยู่ให้มีตัวตน และซื่อตรงต่อลูกค้า ซึ่งตัวตนใน
ที่นี้ไม่เพียงแค่มีบล็อกหรือเพจเฟซบุ๊ก หรือช่องทางโซเชียลที่เป็นทางการ
ของบริษัทเท่านั้น แม้การมีความเคลื่อนไหวบนโลกโซเชียลตลอดก็ถือเป็น
สิ่งจ�าเป็นด้วยเช่นกัน แต่ก็ควรสร้างตัวตนในทุกจุดที่เป็นไปได้โดยเฉพาะ
โลกออฟไลน์ด้วย เช่น ท�าให้คนเห็นภาพแบรนด์ระหว่างเดินอยู่บนท้องถนน
มีหลักการพื้นฐานสองประการที่กลุ่มสตาร์ทอัพควรพิจารณาเมื่อท�า ที่แม้คนจะไม่ทราบแต่แรกว่าแบรนด์นี้คืออะไร แต่ก็จะเริ่มจดจ�าชื่อแบรนด์
การตลาด ได้แก่ ความจริงที่แค่ผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมนั้นไม่เพียงพอที่จะ แล้ว รวมไปถึงการค้นหาต�าแหน่งที่มีลูกค้าของคุณอยู่ แล้วแฝงเข้าไปอยู่
ท�าให้ธุรกิจประสบความส�าเร็จ และเรื่องที่ว่าเราไม่สามารถใช้การตลาดกู้ชื่อ ในคอนเทนต์ที่ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวใช้งานในรูปแบบที่เป็นประโยชน์และ
ของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้เรื่องได้ ไม่ว่าจะลงทุนท�าโฆษณามากแค่ไหนก็ตาม สัมพันธ์กับสิ่งที่ลูกค้าต้องการ (อย่าซื่อตรง ไม่หลอกลวงหรือล่อหลอก) และ
ธุรกิจนั้นเป็นเรื่องของการเติบโตอย่างยั่งยืนซึ่งต้องท�าทั้งสองเป้าหมายคือ ให้ความช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเป้าหมายพร้อมๆ กับแสดงการมีตัวตนในนาม
การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีเยี่ยมและท�าตามยุทธศาสตร์การตลาดที่เหมาะสม ของแบรนด์ด้วย แม้จะเป็นการช่วยคู่แข่งที่กลุ่มเป้าหมายใช้บริการอยู่ก็ตาม
ควบคู่กันไป เพื่อที่สุดท้ายแล้วการได้ครองทั้งส่วนแบ่งลูกค้า และการท�า โดยเน้นการเป็นผู้ที่ยินดีแก้ไขปัญหาลูกค้ามากกว่าเน้นขายของอย่างเดียว
สินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดจะกลายเป็นปัจจัยหลักของการ
ขยายธุรกิจในระยะยาว 4. สร้างลักษณะเฉพาะของ SME ของคุณ เรียกว่าเป็นการสร้างบุคลิก
ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดทั้งหลายแนะน�าไว้ว่า วิธีการท�าตลาด เฉพาะตัวส�าหรับสตาร์ทอัพของตนเอง โดยมองแบรนด์เหมือนกับตัวบุคคล
พื้นฐานเลยต้องเริ่มจาการสร้างแบรนด์ทั้งตัวบริษัทและผลิตภัณฑ์ ซึ่ง ว่าอยากให้มีลักษณะนิสัยอะไรให้ลูกค้าจดจ�า จากนั้นจึงสร้างคอนเทนต์และ
การสร้างแบรนด์มีความส�าคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นสื่อกลางในการสื่อสาร คอยสื่อสารในแนวทางดังกล่าวอยู่เสมอ
และท�าให้ลูกค้าทราบได้อย่างรวดเร็วว่าบริษัทและผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้
คืออะไร ซึ่งแบรนด์ที่ดีควรกระชับ โดดเด่น สื่อความได้ชัดเจนโดยไม่ต้อง 5. พยายามออกสื่อให้เยอะที่สุด แม้สตาร์ทอัพจะยังไม่มีเงินลงทุน
คอยกลัวที่จะอธิบายความหมายแท้จริงที่เจ้าของแบรนด์อย่างจะแสดงออก มากพอส�าหรับท�าพีอาร์ให้ทั่วถึง แต่ก็ไม่ควรท้อถอยในการแบ่งปันเรื่องราว
เพราะผู้คนต่างต้องการความซื่อตรง นอกจากนี้ยังควรให้ความส�าคัญกับ ของตัวเองแก่สาธารณะ โดยเฉพาะเมื่อเราเป็นผู้สร้างคอนเท็นต์ด้วยตัวเอง
สิ่งที่ลูกค้าต้องการอย่างแท้จริง ไม่ใช่คอยแต่พะวงเรื่องการใช้ค�าพูดโน้มน้าว
หรือโฆษณาเกินไป ทั้งนี้ เราทราบดีว่าแต่ละธุรกิจต่างมีลักษณะเฉพาะ รวมทั้งกฎระเบียบใน
แม้ว่าแต่ละธุรกิจต่างก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน แต่ก็มีแนวทางพื้นฐาน การแบ่งปันข้อมูลหรือสื่อสารกับลูกค้าที่แตกต่างกัน แต่บางครั้งการแหกคอก
ที่ SME สามารถน�าไปประยุกต์ใช้สร้างแบรนด์ที่สื่อถึงตัวตนของธุรกิจเพื่อ และท�าอะไรที่แหวกแนวก็อาจได้ผลลัพธ์ที่เกินคาดได้ แม้เส้นทางการเติบโต
แข่งขันในตลาดได้อย่างยอดเยี่ยมดังนี้ ของส่วนแบ่งตลาดในบรรดากิจการทั้งขนาดเล็กและขนาดกลางทั้งหลายจะ
แย่งกันอยู่ตลอดเวลาจนเหมือนมีขึ้นมีลงแต่เราก็ควรจับตามองโอกาส คอย
1. สร้างแบรนด์ด้วยประสบการณ์ใช้บริการของลูกค้า โดยคิดถึง หยิบฉวยจังหวะแล้วไต่เต้ากลับขึ้นมายังต�าแหน่งที่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว
ลูกค้าเหมือนเป็นที่ปรึกษา ให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่ง เพื่อที่จะสร้างแบรนด์ให้ SME สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต l
ของทีมงานที่ดูแลแบรนด์ ถ้าคุณมีผลิตภัณฑ์หรือบริการที่โดดเด่นได้
คุณภาพจริง ลูกค้าย่อมต้องใช้บริการ รวมทั้งคอยกระจายบอกปากต่อปาก
จนสามารถเพิ่มฐานลูกค้าให้คุณได้ ซึ่งจากสถิติแล้วการสร้างไวรัล หรือท�าให้
คนพูดปากต่อปาก (Word of Mouth หรือ WOM) เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ถือเป็น
แนวทางที่ให้ผลที่ดีที่สุด โดยควรสร้างกลไกในแต่ละจุดของธุรกิจเพื่อเปิดให้
ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ได้มีส่วนร่วม รวมทั้งเปิดให้สามารถเรียนรู้จากปฏิกิริยาและ
เสียงตอบรับของลูกค้าได้ ไม่ว่าผลิตภัณฑ์ปัจจุบันจะดีเยี่ยมอย่างไรก็จะมี
ช่องว่างให้สามารถปรับปรุงได้อยู่เสมอ การรับฟังความคิดเห็นและมี
ปฏิสัมพันธ์กับลูกค้านั้นเป็นสิ่งจ�าเป็นในทุกกิจกรรมทางธุรกิจ เป็นช่องทาง
ในการยกระดับความพึงพอใจ และท�าให้ลูกค้ารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับบริษัท
ได้ แต่มีประเด็นที่ควรระวังไว้คือ อย่าเอาแต่เก็บรวบรวมเสียงตอบรับเท่านั้น
แต่ให้จัดการแก้ไขปรับปรุงอย่างรวดเร็วด้วย มิฉะนั้นความคิดเห็นที่ถาโถม ที่มา : https://www.entrepreneur.com/article/298049
เข้ามาจะกลายเป็นภัยร้ายท�าลายธุรกิจได้ในภายหลัง
www.ricoh.co.th
27