Page 29 - Ricoh Family
P. 29
MIsC
และมักจบลงด้วยความจ�าเป็นที่ต้องย้อนกลับไปเรียนเรื่อง
พื้นฐานกันใหม่ ดังนั้น เราไม่ควรคิดว่าการเขียนรู้พื้นฐานเป็นการ
เสียเวลา แต่ควรพยายามจับหลักการให้ได้ เพื่อช่วยประหยัดเวลา
ในการเรียนรู้โปรแกรมมิ่งได้ในระยะยาว
2. ท�า Dry Run กับโค้ดของคุณก่อน
การท�า Dry Run คือการแปลความหมายของโค้ดแต่ละบรรทัด
บนกระดาษ ก่อนน�าไปรันจริงบนคอมพิวเตอร์ ด้วยวิธีนี้จะช่วยยกระดับ
กลไกการคิดเชิงเหตุผล และท�าให้ก้าวขึ้นระดับถัดไปของการเรียนรู้
ได้ง่ายและเร็วยิ่งขึ้น
การท�า Dry Run กับโค้ดนั้นถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้
วิธีเขียนโปรแกรม จึงควรพยายามฝึกนิสัยให้เคยชินติดตัว นอกจากนี้
เวลาไปสมัครงาน ผู้สัมภาษณ์มักขอให้คนที่มาสอบสัมภาษณ์
เขียนโค้ดด้วยมือด้วย
3. ให้คิดนอกกรอบ
หลายครั้งที่เราได้ยินประโยคนี้ แต่ไม่ค่อยมีใครอธิบายความหมาย
ให้เข้าใจ การเรียนรู้การเขียนโปรแกรมนั้นมีทางเลือกมากมาย
ทั้งบนโลกออนไลน์และออฟไลน์ เพียงแค่พิมพ์ค้นหาในกูเกิ้ลก็จะพบ
เว็บที่สามารถอธิบายหลักการได้ครบหมดทุกอย่าง อย่างละเอียดด้วยซ�้า
แต่ถ้าคุณต้องการจะก้าวหน้าในสายอาชีพแล้ว แค่การเขียนโค้ด
เป็นพันบรรทัดทุกสัปดาห์ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากเท่าไร คุณจ�าเป็น
ต้องพยายามเพิ่มระดับรากฐานความรู้ระหว่างที่ท�างานเขียนโปรแกรม
ไปด้วย
ในโลกความเป็นจริงนั้น คุณจะได้ท�างานตามความต้องการ
ของลูกค้า ซึ่งมักสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง ดังนั้น
คุณจ�าเป็นต้องท�าความเข้าใจธุรกิจของลูกค้า แล้วคิดหาวิธีที่จะ
ยกระดับให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการต่างๆ
ได้ง่ายขึ้นด้วย
4. ฝึกฝนให้มากขึ้น
มีหลายคนที่เริ่มเรียนโปรแกรมมิ่งด้วยการใช้หนังสือ และศึกษา
จากทฤษฎีจนใช้เวลานานหลายเดือนโดยยังไม่ได้ลองเขียนโค้ด
จริง ซึ่งนับเป็นความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่มาก เนื่องจาก “การฝึกฝน
จนเชี่ยวชาญ” ถือเป็นเรื่องส�าคัญโดยเฉพาะเรื่องของการเขียน
โปรแกรม
5. อย่าลืมผ่อนคลายบ้าง
งานด้านเขียนโปรแกรมนับเป็นงานที่ตื่นเต้น แต่ก็สูบพลังงาน
ไปมากด้วยเช่นกัน หลายครั้งที่ผู้คนต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการ
แก้ไขบั๊กตัวเดียวโดยไม่มีแนวทางแก้ไข จนกระทบกับตารางชีวิต
ทั้งการกินการอยู่ ซึ่งไม่ใช่ภาวะที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเลย
โดยเฉพาะถ้ายังอยู่ในวัยหนุ่มสาว
ที่มา : Technotification
SEPTEMBER 2019 | RICOH FaMIly 29